https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/issue/feed วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) 2024-12-18T16:11:39+07:00 ผศ.ดร.เชษฐา มุหะหมัด human.nstru62@gmail.com Open Journal Systems <p><strong>วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ เลขมาตรฐานสากล ISSN : 2774-1141 (Online)</strong> เป็นวารสารวิชาการของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่องค์ความรู้ทางด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษาและผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานวิชาการและผลงานวิจัยทางด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ประยุกต์ โดยเปิดรับบทความในกรอบวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ประยุกต์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในประเภทบทความวิจัย (research article) บทความวิชาการ (academic article) บทความปริทัศน์ (review article) และบทความวิจารณ์หนังสือ (book review) ซึ่งบทความทุกบทความ จะผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิในด้านนั้นๆ ไม่น้อยกว่า 3 ท่าน ในรูปแบบผู้ประเมินและผู้แต่งไม่ทราบชื่อซึ่งกันและกัน <strong>(double-blind review)</strong> กำหนดออกวารสารปีละ 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน และ ฉบับที่ 2 กรกฎาคม – ธันวาคม</p> <p>กองบรรณาธิการเปิดรับบทความ โดยส่งผ่านระบบ ThaiJo และดำเนินการตามระบบตามมาตรฐาน TCI เพื่อให้ทุกบทความมีคุณภาพ เกิดประโยชน์ทางวิชาการและสังคม ตามเป้าหมายหลักของวารสารวิชาการ</p> https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/282040 กลวิธีการใช้ภาษาบริภาษที่ปรากฏบนแฮชแท็กพระมหาเทวีเจ้า ในแอปพลิเคชัน TikTok 2024-10-21T14:52:07+07:00 กรวรรณ พฤษกลำมาศ korawan.zxc@gmail.com ณัฏฐธิดา กลับทอง Nattatida6254@gmail.com อรรถพล ชูแก้ว auttapon_cho@nstru.ac.th <p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลวิธีการใช้ภาษาบริภาษที่ปรากฏในแฮชแท็กพระมหาเทวีเจ้าในแอปพลิเคชัน TikTok เก็บข้อมูลจากแฮชแท็กพระมหาเทวีเจ้า ในแอปพลิเคชัน TikTok ที่มียอดจำนวนผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 5 แสนครั้ง จำนวน 50 คลิป ในระหว่าง พ.ศ. 2564-2565 ผลการศึกษาพบว่าถ้อยคำบริภาษสามารถแบ่งกลวิธีการบริภาษออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) การบริภาษแบบตรง พบ 2 วิธีการ ได้แก่ การใช้คำที่แสดงความหมายทางลบของผู้ถูกบริภาษ และการบริภาษด้วยสำนวนที่แสดงข้อบกพร่องของผู้ถูกบริภาษ และ 2) การบริภาษแบบอ้อมพบ 8 วิธีการ ได้แก่ การถาม การใช้ถ้อยคำนัยผกผันในรูปวัจนกรรมต่าง ๆ การใช้ความเปรียบหรืออุปลักษณ์ การกล่าวเกินจริง การเล่นคำ การใช้สำนวน การแสดงความรู้สึกแทนผู้ถูกบริภาษ และการดูถูกตนเอง ซึ่งพบว่าผู้บริภาษใช้กลวิธีในการบริภาษแบบอ้อมมากกว่ากลวิธีการบริภาษแบบตรง ทั้งนี้กลวิธีการใช้ภาษาบริภาษยังสะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ทางภาษาที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปในสังคมปัจจุบัน</p> 2024-11-06T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/275760 แนวการพิจารณาพิพากษาคดีปกครองค่าเช่าบ้านข้าราชการ 2024-12-17T10:15:14+07:00 ชิษณุชา หมั่นถนอม joemajor5931@gmail.com <p> บทความวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอลักษณะข้อพิพาทคดีปกครองที่เกี่ยวกับสิทธิค่าเช่าบ้านข้าราชการ โดยมีเหตุมาจากการพิจารณาออกคำสั่งทางปกครองของผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่ออกคำสั่งโดยมิชอบ จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดปรากฎชัดว่าการออกคำสั่งทางปกครองของผู้มีอำนาจในการอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้ข้าราชการที่ขอใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านมักไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการตีความกฎหมายเพื่อปรับใช้ในแต่ละกรณีนั้นต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจตนารมณ์ของกฎหมาย หลักความเสมอภาค ในการพิจารณาออกคำสั่งทางปกครองเพื่อให้ผลของกฎหมายเป็นไปตามความต้องการของผู้ออกกฎหมาย แนวคำพิพากษาคดีที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญของผู้มีอำนาจ เป็นองค์ความรู้ที่ใช้ในการพิจารณาออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ทำให้กระทบสิทธิหรือความไม่เป็นธรรมแก่ผู้มีสิทธิและผู้ขอใช้สิทธิค่าเช่าบ้านข้าราชการ ขั้นตอนกระบวนการหรือข้อควรคำนึง ประการที่ 1 ตรวจสอบสิทธิค่าเช่าบ้านข้าราชการเมื่อได้รับคำของโดยพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่และไม่เข้าข้อยกเว้น ประการที่ 2 ตรวจสอบการขอใช้สิทธิเบิกค่าเช่าบ้านราชการ ทั้งกรณีการเช่า การกู้เงินเพื่อเช่าซื้อ ซื้อ และ ปลูกสร้างบ้าน โดยการตีความกฎหมายและปรับใช้กับข้อเท็จจริงแต่ละกรณี</p> 2024-12-23T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/270281 จาก CDA สู่ MCDA : แนวคิดและการประยุกต์ใช้เพื่อศึกษาวาทกรรมในภาษาไทย 2024-12-18T16:11:39+07:00 นันทวัฒน์ เนตรเจริญ r_arts_55@hotmail.com <p> บทความฉบับนี้มุ่งนำเสนอแนวคิดวาทกรรมหลากรูปแบบวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ (MCDA) เพื่อเป็นแนวทางต่อยอดการศึกษาวาทกรรมในภาษาไทย เนื้อหาประกอบด้วย (1) แนวคิดด้านวาทกรรมหลากรูปแบบวิเคราะห์ (MDA) กับมุมมองเรื่องความหมายและรูปแบบ (2) ความสำคัญของการปรับเปลี่ยนจากการศึกษาวาทกรรมรูปแบบเดี่ยวมาสู่วาทกรรมหลากรูปแบบ ซึ่งมีความสอดคล้องกับลักษณะของตัวบทวัฒนธรรมประชานิยมในปัจจุบัน (3) แนวคิดวาทกรรมหลากรูปแบบวิเคราะห์เชิงวิพากษ์และตัวอย่างการประยุกต์ใช้เพื่อศึกษาวาทกรรมในภาษาไทย</p> 2024-12-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/269153 นวัตกรรมสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีผลต่อนักท่องเที่ยวในธุรกิจโรงแรมจังหวัดตรัง 2024-11-29T10:58:20+07:00 ชยนรรจ์ ขาวปลอด chayanun.k@ku.th จันทิวรรณ สมาธิ chayanun.k@rmutsv.ac.th คุลิกา ธนะเศวตร chayanun.k@rmutsv.ac.th <p> บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอกรอบแนวคิดเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวที่มีต่อนวัตกรรมสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีต่อการเข้ามาท่องเที่ยวในธุรกิจโรงแรมจังหวัดตรัง วัตถุประสงค์ของการศึกษาบทความนี้ คือ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยว (เพศ, อายุ, ภูมิลำเนา, ระดับการศึกษา, สถานภาพ) กับนวัตกรรมสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจเข้าพักในธุรกิจโรงแรมจังหวัดตรัง เพื่อวิเคราะห์ว่าสื่อประชาสัมพันธ์ประเภทใด (สื่อมวลชน, สื่อสิ่งพิมพ์, สื่อกิจกรรมพิเศษ, สื่ออินเทอร์เน็ต, สื่อบุคคล) มีอิทธิพลต่อการรับรู้และการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจโรงแรมในจังหวัดตรังผ่านการใช้ และสื่อประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมในโลกยุคดิจิทัล โดยแยกตามประเภทของตัวแปรต้นประกอบด้วย เพศ อายุ ภูมิลำเนา ระดับการศึกษา สถานภาพ และตัวแปรตามประกอบด้วยนวัตกรรมการสื่อสาร สื่อมวลชน สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อกิจกรรมพิเศษ สื่ออินเตอร์เน็ตออนไลน์ และสื่อบุคคลหรือสื่อคำพูด ซึ่งจากการศึกษาวรรณกรรมพบว่า ประเด็นที่น่าสนใจศึกษามีดังนี้ เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวที่มีต่อนวัตกรรมสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีต่อการเข้ามาท่องเที่ยวในธุรกิจโรงแรมจังหวัดตรัง กรอบแนวคิดที่ได้นี้ สามารถนำไปใช้ในการศึกษาเพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดของธุรกิจจากสื่อประชาสัมพันธ์ในธุรกิจโรงแรม นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในธุรกิจโรงแรมในจังหวัดตรังได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีรูปแบบใดเข้าถึงความต้องการของลูกค้าด้วยความทันสมัย รวดเร็ว ครอบคลุมทุกเครือข่าย สอดรับการเปลี่ยนแปลงในยุคการตลาดยุคดิจิทัล</p> 2024-12-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/266636 การจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 2024-12-07T10:44:47+07:00 รังสิญา ช่อผูก rangsiya.chor@gmail.com ประกอบ ใจมั่น rangsiya.chor@gmail.com <p> บทความนี้เป็นการนำเสนอการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ เด็กและเยาวชนคือปัจจัยที่สำคัญที่จะพัฒนาสังคมและประเทศ ถ้าเด็กและเยาวชนมีการศึกษาที่ดี ก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งผลให้สังคมและประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีได้ การจัดการศึกษาเชิงพื้นที่จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายองค์ความรู้ อำนาจการบริหารองค์การ และการบริหารจัดการทางการศึกษาลงไปสู่ประชาชนทุกคนได้อย่างทั่วถึง อันจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งส่งผลให้เกิดการพัฒนาประเทศที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป</p> 2024-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/266641 การศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม 2024-12-17T10:16:06+07:00 พีรพล สุวรรณชีพ archangel551310167@gmail.com ประกอบ ใจมั่น rangsiya.chor@gmail.com <p> บทความวิชาการนี้นำเสนอเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ในการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จากการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการสืบค้นข้อมูลสำหรับนักวิจัย สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการทำวิจัยในขั้นต่อไป และเป็นการเผยแพร่ความรู้ให้ผู้สนใจ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมในงานด้านศิลปะ, ศาสนา, วัฒนธรรม, การท่องเที่ยว, การเรียนรู้ และการประชาสัมพันธ์, โอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมของผู้บริโภค รวมถึงการเสนอแนวคิดการใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมในการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช</p> 2024-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/265945 สภาพปัญหาและความต้องการของการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานธุรกิจขนาดย่อมในจังหวัดเชียงรายเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 2024-12-17T10:16:25+07:00 วิสิษฐ์ คำดี visittt2023@gmail.com วิกรม บุญนุ่น visittt2023@gmail.com นาวิน พรมใจสา visittt2023@gmail.com เบญจมาศ เมืองเกษม visittt2023@gmail.com <p> การวิจัยในครั้งนี้มุ่งศึกษา สภาพปัญหาและความต้องการของการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานธุรกิจขนาดย่อมในจังหวัดเชียงรายเพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน โดยวิธีการเชิงระบบของยุทธศาสตร์การพัฒนาซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์สภาพปัญหา(ปัญหาทุกข์ร้อน ปัญหาสืบเนื่อง ปัญหาเป้า) จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,022 ราย ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจากวิธีการกำหนดขนาดของยามาเน่จำนวน 305 ราย ผลการวิจัยพบว่าศักยภาพเบื้องต้นของแรงงานธุรกิจขนาดย่อม การมีคุณธรรมและจริยธรรม และ การมีมนุษยสัมพันธ์ มีคะแนนอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 5.00 และ 4.61) การสื่อสารและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ (ค่าเฉลี่ย = 4.33) การแก้ไขปัญหาฉพาะหน้า (ค่าเฉลี่ย = 3.97) ทักษะฝีมือ หรือความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ (ค่าเฉลี่ย = 4.48) และ ความสนใจในการแสวงหาความรู้ใหม่ (ค่าเฉลี่ย = 4.10) และความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่มีความสำคัญในการพัฒนาทักษะอาชีพ กลุ่มตัวอย่าง ให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆตามลำดับดังนี้ ด้านเนื้อหาสาระภาคทฤษฎีเกี่ยวกับสาขาวิชาชีพ มีความสำคัญมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย =4.35) และรองลงมาคือ เทคนิคการประยุกต์ทฤษฎีกับการปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิชาชีพ (ค่าเฉลี่ย =4.34) มีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และมีค่าความเชื่อมัน (Cronbach’s Alpha) = .984 และสภาพปัจจุบันในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดเชียงราย เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นั้น กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นที่อยู่ในระดับมากที่สุด ประกอบไปด้วย การมีความรู้ในวิชาชีพของตนเอง (ค่าเฉลี่ย =4.86) การมีบุคลากรที่มีความรู้ในวิชาชีพเพียงพอ (ค่าเฉลี่ย =4.82) และ การมีความพร้อมในการถ่ายทอดความรู้ในวิชาชีพของตนเอง (ค่าเฉลี่ย =4.70)</p> <p> สำหรับความต้องการในอนาคตในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดเชียงราย เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นั้น กลุ่มตัวอย่างที่มีความคิดเห็นที่อยู่ในระดับมากที่สุด ประกอบไปด้วย การได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาทักษะวิชาชีพจากภาครัฐหรือเอกชน ค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย =4.58) การมีวัสดุ อุปกรณ์ในการพัฒนาทักษะอาชีพอย่างเพียงพอ (ค่าเฉลี่ย =4.55) การมีวัสดุ อุปกรณ์ในการพัฒนาทักษะอาชีพที่ใช้งานได้ปกติ (ค่าเฉลี่ย =4.56) การได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการพัฒนาทักษะวิชาชีพจากภาครัฐหรือเอกชน (ค่าเฉลี่ย =4.57) การมีรายได้เพียงพอต่อจากการประกอบอาชีพ ค่าเฉลี่ย 4.51 และการมีช่องทางในการขยายกลุ่มลูกค้า (ค่าเฉลี่ย =4.55)</p> 2024-12-28T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online) https://so03.tci-thaijo.org/index.php/humannstru62/article/view/266700 การทำบุญสิบสองเดือนของชาวไทยพุทธ : วัดพระธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช 2024-12-07T10:45:07+07:00 วชิรวิทย์ บัวขาว washirawit_bua@nstru.ac.th ธีรวัฒน์ ช่างสาน teerawat_cha@nstru.ac.th ยุทธกาน ดิสกุล yuttakan_dis@nstru.ac.th <p> บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรมพระพุทธศาสนาในรอบสิบสองเดือนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธาตุวรมหาวิหารจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชาชนผู้ที่ยังคงร่วมกันสืบทอดรักษาพิธีกรรม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี วิถีชีวิตของชุมชน ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นตลอดสิบสองเดือน ผลการศึกษาพบว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นยังคงเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวันสำคัญทางศาสนา เทศกาล และประเพณีท้องถิ่น โดยเดือนที่มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับพุทธศาสนามีทั้งสิ้น 8 เดือน โดยมีความเกี่ยวเนื่องกับวันสำคัญทางศาสนาและประเพณีของชาวไทย นอกจากนี้ยังพบว่าเดือนที่ไม่มีการจัดกิจกรรมทั้งหมด 4 เดือน ผลจากการศึกษาในครั้งนี้ สามารถนำมาต่อยอดเพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมวัดพระธาตุวรวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่สามารถเชื่อมโยงได้ตลอดทั้งปี</p> 2024-12-28T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมมนุษย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ISSN : 2774-1141 (Online)