https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/issue/feed วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ 2025-06-25T09:09:55+07:00 วิวัฒน์ โมอ่อน wimoon@rpu.ac.th Open Journal Systems <p>ข้อมูลเกี่ยวกับวารสาร</p> <p>1. วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ เป็นวารสารวิชาการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Journal) ฉบับภาษาไทยที่รวบรวมบทความวิชาการ (Academic Article) บทความวิจัย (Research Article) และบทความวิจารณ์ (Review Article)</p> <p>2. วัตถุประสงค์ของวารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ คือ</p> <p> 2.1 เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการในความรู้ทางวิชาการด้านมนุษย์ศาสตร์ และสังคมศาสตร์แก่บุคคลที่สนใจ</p> <p> 2.2 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาค้นคว้า และการผลิตผลงานทางวิชาการของคณาจารย์ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา</p> <p> 2.3 เพื่อเป็นสื่อกลางในการนำเสนอ แลกเปลี่ยนความรู้เชิงวิชาการของผู้ทรงคุณวุฒิ คณาจารย์ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ตลอดจนเป็นสื่อกลางในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านบริหารธุรกิจ</p> <p>3. จัดพิมพ์เผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ </p> <p>4. จัดพิมพ์เผยแพร่ บทความวิชาการ (Academic Article) บทความวิจัย (Research Article) และบทความวิจารณ์ (Review Article) ฉบับภาษาไทย ฉบับละ 10-15 บทความ</p> <div class="journal-description"> <p><strong>ISSN 2821-9872 (Online)</strong></p> </div> https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290821 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความจงรักภักดีของลูกค้าเงินกู้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาบ่อวิน 2025-06-22T13:54:19+07:00 คมสันต์ เจริญพรม khomsan.j@ghb.co.th พรพิมล กะชามาศ pornpimon_kac@utcc.ac.th <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อความจงรักภักดีของลูกค้าเงินกู้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาบ่อวิน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ใช้บริการเงินกู้ที่มีประวัติการกู้เงินที่กำลังใช้บริการกู้เงินอยู่ในปัจจุบัน หรือกำลังที่จะย้ายธนาคาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาบ่อวิน จำนวน 150 ตัวอย่าง ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน คือ การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า การรับรู้คุณภาพของการให้บริการมีอิทธิพลทางตรงต่อความจงรักภักดีด้านพฤติกรรมและด้านทัศนคติของลูกค้าเงินกู้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาบ่อวินอย่างมีนัยสำคัญ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความไว้วางใจหรือความน่าเชื่อถือ (β = -0.106) การตอบสนองลูกค้า (β = 0.214) การให้ความมั่นใจให้แก่ลูกค้า (β = 0.467) และความใส่ใจลูกค้า (β = 0.428) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ความพึงพอใจของลูกค้ามีอิทธิพลทางตรงต่อความจงรักภักดีด้านพฤติกรรมและด้านทัศนคติของลูกค้าเงินกู้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาบ่อวินอย่างมีนัยสำคัญ ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ความพึงพอใจต่อค่าใช้จ่ายเมื่อใช้บริการ (β = 0.240) ความพึงพอใจต่ออัธยาศัย ความสนใจของผู้ให้บริการ (β = 0.232) ความพึงพอใจต่อคุณภาพของบริการ (β = 0.194) ความพึงพอใจต่อการประสานงานของการบริการ (β = 0.164) และความพึงพอใจในความสะดวกจากการบริการ (β = 0.124) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290820 พฤติกรรมการตัดสินใจใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารอาคารสงเคราะห์ของกลุ่มคน วัยทำงานที่เคยใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ในเขตกรุงเทพตะวันตก 2025-06-22T13:46:08+07:00 รัตนชัย สุวรรณกำจาย jurairat.iimake@gmail.com จรัชวรรณ จันทรัตน์ jaratchwahn_jan@utcc.ac.th <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบการตัดสินใจเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันธนาคารอาคารสงเคราะห์ GHB ALL GEN จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 2) เปรียบเทียบพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันธนาคารฯ 3) ศึกษาการยอมรับและการใช้เทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการใช้แอปพลิเคชันธนาคารฯ กลุ่มตัวอย่าง คือ คนวัยทำงานที่เคยใช้แอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ในเขตกรุงเทพตะวันตก จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือวิจัย วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้บริโภคที่มีเพศที่ต่างกันการตัดสินใจเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันธนาคารฯ ไม่ต่างกัน ส่วนลักษณะประชากรศาสตร์ ด้านอายุ การศึกษา รายได้ อาชีพ และสถานภาพการสมรสที่ต่างกันการตัดสินใจเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันธนาคารฯ แตกต่างกัน 2) ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมด้านการเข้าใช้งาน ด้านช่วงเวลาในการเข้าใช้งาน ด้านอุปกรณ์ที่ใช้งาน ด้านการบริการที่เลือกใช้ ด้านเวลาในการเข้าใช้งานแต่ละครั้ง ด้านผู้แนะนำให้ใช้บริการ ด้านสาเหตุหลักในการเลือกใช้งาน และด้านปัจจัยหลักในการเลือกใช้งานต่างกันมีการเลือกใช้แอปพลิเคชันธนาคารฯ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) การยอมรับและการใช้เทคโนโลยีส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชันธนาคารฯ ของกลุ่มวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครตะวันตก ในเรื่องของความน่าเชื่อถือของระบบ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมที่สนับสนุน การยืนยันความคาดหวัง และการรับรู้ถึงความเสี่ยง ส่วนการยอมรับและการใช้เทคโนโลยีไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้แอปพลิเคชันธนาคารฯ ของกลุ่มวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานครตะวันตก ในเรื่องของการรับรู้คุณค่าที่ได้รับจากการบริการ ปัจจัยการคาดหวังถึงประสิทธิภาพปัจจัยการคาดหวังในการใช้งาน และปัจจัยด้านอิทธิพลทางสังคม</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290822 ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการด้านเงินฝากของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 2025-06-22T14:00:03+07:00 จุไรรัตน์ อินทร์เมฆ jurairat.iimake@gmail.com พรพิมล กะชามาศ pornpimon_kac@utcc.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบการเลือกใช้บริการด้านเงินฝากของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสัตหีบ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 2) ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการด้านเงินฝากของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสัตหีบ 3) ศึกษาปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด (7P’s) ที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการด้านเงินฝากของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสัตหีบ กลุ่มตัวอย่าง คือ ลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาสัตหีบ จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างที่มีปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันการเลือกใช้บริการด้านเงินฝากไม่แตกต่างกัน 2) พฤติกรรมผู้บริโภค ได้แก่ เหตุผลในการเลือกใช้บริการ ช่องทางการทำธุรกรรม ช่วงเวลาที่สะดวก ความถี่ในการใช้บริการ ประเภทธุรกรรม และบุคคลที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไม่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการ 3) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด (7P’s) ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ราคา กระบวนการ และลักษณะทางกายภาพมีผลต่อการเลือกใช้บริการเงินฝากของลูกค้า ขณะที่ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการตลาด และพนักงาน ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290823 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กลุ่มอาชีพประจำ (รายย่อย) ในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ตอนบน 2025-06-22T14:04:46+07:00 เด่น สมพร jeabmanm@gmail.com อริสรา เสยยานนท์ arisara_sey@utcc.ac.th <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กลุ่มอาชีพประจำ (รายย่อย) ในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ตอนบน ของธนาคารอาคารสงเคราะห์<br>กลุ่มตัวอย่าง คือ ลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 382 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัย คือ แบบสอบถามระดับความคิดเห็นและวัดระดับ 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยทางด้านคุณค่าตราสินค้าด้านการรู้จักตราสินค้า การภักดีต่อตราสินค้า และสินทรัพย์ประเภทอื่นของตราสินค้ามีอิทธิพลต่อการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กลุ่มอาชีพประจำ (รายย่อย) ในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ตอนบน และปัจจัยทางด้านการรับรู้คุณค่าด้านอารมณ์ คุณค่าทางด้านสังคม คุณค่าทางด้านคุณภาพ และคุณค่าทางด้านตัวเงินมีอิทธิพลต่อการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กลุ่มอาชีพประจำ (รายย่อย) ในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ตอนบนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290824 แนวทางการเพิ่มยอดผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฝ่าย สป.2 เขตกรุงเทพ-ใต้ 2025-06-22T14:10:23+07:00 อรทิพย์ สันติสิริพงศ์ 2221131621048@live4.utcc.ac.th กิตติพงษ์ สาครเสถียร kittipong_sak@utcc.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสาเหตุและแนวทางในการเพิ่มยอดผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฝ่าย สป.2 เขตกรุงเทพ-ใต้ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยลูกค้าที่ใช้บริการผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำของธนาคาร โดยกลุ่มวิจัยเชิงคุณภาพจำนวน 5 ราย และเชิงปริมาณจำนวน 384 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ รวมถึงการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาโดยใช้ SWOT และการกำหนดแนวทางเชิงกลยุทธ์ด้วย TOWS Matrix</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำลดลง ได้แก่ การขาดการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ โดยเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์และโฆษณาผ่านสื่อที่ยังมีจำนวนน้อย การขาดแคลนบุคลากรให้บริการ การไม่มีโปรโมชั่นด้านการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อจูงใจลูกค้า และการขาดช่องทางการให้บริการฝากประจำแบบออนไลน์ นอกจากนี้ ยังพบว่าผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ช่องทางการให้บริการมีจำกัด และกระบวนการให้บริการยังซับซ้อนและใช้เวลานาน แนวทางในการพัฒนา ได้แก่ การเพิ่มประเภทของผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ การจัดโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มการรับรู้และความสนใจของลูกค้า</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290825 แนวทางลดการส่งคืนงานสินเชื่อของศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อไปยังส่วนงานสาขา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2025-06-22T14:18:33+07:00 สาลินี อยู่สุข ann.annie2529@gmail.com กิตติพงษ์ สาครเสถียร kittipong_sak@utcc.ac.th <p>การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาสาเหตุที่ส่งผลต่อการส่งคืนงานสินเชื่อ 2) นำเสนอแนวทางแก้ไขที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดปัญหาการส่งคืนงานสินเชื่อของศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อไปยังส่วนงานสาขา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ แบบสอบถาม เก็บรวบรวมกับกลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานที่ปฏิบัติงานสินเชื่อสาขาฝ่ายภาคตะวันออก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 100 คน สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ คือ แบบสัมภาษณ์ โดยสัมภาษณ์เชิงลึกพนักงานที่ปฏิบัติงานสินเชื่อสาขาฝ่ายภาคตะวันออก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 5 คน โดยการใช้เทคนิค Why Why Analysis</p> <p>ผลการวิจัย พบว่า 1) สาเหตุที่ส่งผลต่อการส่งคืนงานสินเชื่อของศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อไปยังส่วนงานสาขา ประกอบด้วยด้านพนักงาน ด้านเอกสาร ด้านกระบวนการ และด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ 2) แนวทางเลือกสำหรับแก้ไขปัญหา การจัดอบรมพนักงานสินเชื่อสาขาเกี่ยวกับการวิเคราะห์สินเชื่ออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อยกระดับความรู้และทักษะของพนักงานสินเชื่อสาขา มีการจัดทำคู่มือปฏิบัติงานและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการวิเคราะห์สินเชื่อให้ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของพนักงานสินเชื่อสาขาในการทำงาน จัดทำระบบติดตามและประเมินผลการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสาขา และศูนย์วิเคราะห์สินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290826 การพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตพื้นที่ตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2025-06-22T14:27:31+07:00 ชูศรี บุญอุทิศ chukapook@gmail.com <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขก่อนและหลังได้รับการพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก 2) เปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับกระบวนการวางแผนของอาสาสมัครสาธารณสุขในตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก่อนและหลังได้รับการพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข่เลือดออก และ 3) เปรียบเทียบการมีสวนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขในตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก่อนและหลังได้รับการพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก กลุ่มเป้าหมาย คือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ของตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามการพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในเขตพื้นที่ตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ&nbsp; Paired -test</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการศึกษา พบว่า ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการวางแผนของอาสาสมัครสาธารณสุข ภายหลังได้รับการพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ดีกว่าก่อนได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และการมีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของอาสาสมัครสาธารณสุขในเขตพื้นที่ตำบลคุ้งลาน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายหลังได้รับการพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ดีกว่าก่อนได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290827 รูปแบบการควบคุมโรคไข้เลือดออก กรณีศึกษาตำบลขนอนหลวง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2025-06-22T14:31:01+07:00 สำเริง นนทปัญญา homneump@gmail.com <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการควบคุมโรคไข้เลือดออก ตำบลขนอนหลวง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) กลุ่มตัวอย่าง</p> <p>ประกอบด้วย ภาคีเครือข่ายชุมชนป้องกันโรคไข้เลือดออก จำนวน 62 คน และจำนวน 350 หลังคาเรือน ซึ่งคัดเลือกจากพื้นที่ที่มีค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายในอดีตสูงกว่าร้อยละ 50 เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสำรวจค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายและแบบสุ่มสำรวจค่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ย</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยใช้กลไกการขับเคลื่อนของภาคีเครือข่ายชุมชน ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และการแก้ไขปัญหาโรคไข้เลือดออกในชุมชน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทักษะในการป้องกันและควบคุมโรค รวมถึงการปรับปรุงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมให้ไม่เอื้อต่อการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 2) ผลของรูปแบบดังกล่าว พบว่าค่าเฉลี่ยดัชนีความชุกลูกน้ำยุงลาย (HI) ลดลงจาก 11.71 เหลือ 0.88 และค่าเฉลี่ยดัชนีความชุกของภาชนะ (CI) ลดลงจาก 9.46 เหลือ 0.97 ในการสุ่มสำรวจ พบว่าค่า HI ลดลงจากร้อยละ 3.33 เหลือร้อยละ 1.11 และค่า CI ลดลงจากร้อยละ 1.20 เหลือร้อยละ 0.00 จากผลการศึกษา จึงควรมีการดำเนินงานต่อเนื่องในพื้นที่เพื่อยืดระยะห่างการเกิดโรคไข้เลือดออกจากรอบการระบาดปีเว้นปีให้ยาวนานขึ้น และขยายการดำเนินกิจกรรมไปยังทุกตำบล โดยเน้นการพัฒนาความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในชุมชนเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืน</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290806 บทความฉบับเต็ม 2025-06-22T10:58:55+07:00 อาภรณีน์ อินฟ้าแสง arinfa@rpu.ac.th <p>-</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290812 บทบรรณาธิการ 2025-06-22T11:27:13+07:00 อาภรณีน์ อินฟ้าแสง arinfa@rpu.ac.th <p>-</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290816 กองบรรณาธิการ 2025-06-22T11:38:24+07:00 อาภรณีน์ อินฟ้าแสง arinfa@rpu.ac.th <p>-</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290814 รายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ 2025-06-22T11:33:01+07:00 อาภรณีน์ อินฟ้าแสง arinfa@rpu.ac.th <p>-</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RPUBAJOURNAL/article/view/290817 สารบัญ 2025-06-22T11:42:09+07:00 อาภรณีน์ อินฟ้าแสง arinfa@rpu.ac.th <p>-</p> 2025-06-25T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025